หลังจากปล่อยให้บรรดาค่ายรถยนต์พลังถ่านจากเมืองจีนปล่อยของประชันโฉมกันที่งาน Bangkok International Motor Show 2024 ได้สัปดาห์กว่า Tesla ก็ขอชิงพื้นที่สื่อ พร้อมเรียกกระแสด้วยการนำ Tesla Cybertruck ซึ่งหลายท่านรู้จักกันในฐานะรถกระบะรุ่นแรกของค่ายที่มีหน้าตาหลุดโลกที่สุด มาจอดโชว์ให้สาธารณชนชาวไทย โดยเฉพาะบรรดาแฟนคลับ Tesla ได้ยลโฉมตัวเป็นๆ กันที่ Tesla Center รามคำแหง ก่อนจะถูกส่งกลับยังสหรัฐฯ ภายในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า

Tesla Cybertruck ถูกเผยโฉมอย่างเป็นทางการครั้งแรกในโลก ตั้งแต่วันที่ 30 พฤศจิกายน 2023 ที่ผ่านมา ในฐานะรถกระบะพิกัด Full-size Truck ขุมพลังไฟฟ้า โดยหลังจากที่ได้ปล่อยวีดีโอทดสอบทำความเร็วทางตรง หรือ Darg Race ที่สามารถเอาชนะ Porsche 911 ได้ ทั้งที่ Cybertruck มีการพ่วง Porsche 911 มาด้วยอีกคัน รวมถึงสามารถเอาชนะคู่ชกตรงรุ่น อย่าง Ford F-150 Lightning และ Rivian R1T ในเกม Turck Pull ทำให้กระบะหน้าเหลี่ยมรุ่นนี้ ได้รับการตั้งฉายาโดยชาวเน็ตไทยว่า… “รถขนขิง”

   

 

ตัวเลขมิติตัวถังภายนอกของ Tesla Cybertruck มีความยาว 5,682.9 มิลลิเมตร กว้าง 2,031.8 มิลลิเมตร (ไม่รวมกระจกมองข้าง) สูง 1,740.8 – 1945.8 มิลลิเมตร (ขึ้นอยู่กับการปรับระดับความสูงช่วงล่างถุงลม) และมีความยาวฐานล้ออยู่ที่ 3,635 มิลลิเมตร เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ลองทำตัวเลขไปเทียบกับกระบะจากเมืองลุงแซมอย่าง Ford Ranger Wildtrak จะพบว่า Tesla Cybertruck นั้น ยาวกว่า 312.9 มิลลิเมตร กว้างกว่า 113.8 มิลลิเมตร

บนตัวถังขนาดโอฬารถูกปกคลุมตัวเปลือกตัวถังที่ทำจากวัสดุสแตนเลสแข็งแรงพิเศษ (Ultra-hard 30X Cold-rolled stainless Steel) หนา 1.4 – 1.8 มิลลิเมตร ซึ่งสามารถกันกระสุน 9 มม. ทนแรงกระแทกจากวัตถุทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นรถเข็นตามห้างสรรพสินค้า การทุบด้วยค้อน ตลอดจนสามารถซ่อมแซมได้ง่ายดายเพียงแค่เปลี่ยนชิ้นส่วนใหม่ ราคาอะไหล่ เช่น แก้มหน้าด้านข้าง (Fender) อยู่ที่ 550 เหรียญสหรัฐ หรือราวๆ 20,200 บาท อย่างไรก็ตาม แตนเลสแข็งแรงพิเศษนี้ ไม่สามารถปั๊มขึ้นรูปได้ด้วยเครื่องจักรทั่วไป และเป็นหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ดีไซน์ภายนอกของ Cybertruck ดูเหลี่ยมจัดชนิดที่ว่าถ้าเป็นนิสัยคน คงไม่น่าคบหาสมาคมด้วยซักเท่าไหร่

    

 

ล้อทั้ง 4 ของ Cybertruck เป็นล้ออัลลอย ขนาด 20 นิ้ว พร้อมฝาปิด Aerowheel Cover หน้าตาแสนจะธรรมดา สวมด้วยยาง All-terrain ขนาด 285/65R20 เส้นผ่านศูนย์กลางรวม 33.5 นิ้ว ของจริงใหญ่พอกับรถบรรทุก 10 ล้อ เชื่อมเข้ากับตัวรถด้วยระบบกันสะเทือนแบบอิสระ ทั้ง 4 ล้อ พร้อมระบบรองรับแบบถุงลม AIR Suspension ปรับความนุ่มนวลตามโหมดการขับขี่ และสามารถปรับความสูงได้หลายระดับ ระยะตำ่สุดจากพื้นถึงใต้ท้องรถ (Ground Clearance) ต่ำสุดอยู่ที่ 201.3 มิลลิเมตร และสูงสุดอยู่ที่ 406.3 มิลลิเมตร

ด้านระบบบังคับเลี้ยว เป็นพวงมาลัยแบบ Steering-by-Wire ใช้ระบบไฟฟ้าเข้ามาทำหน้าที่แทนแกนพวงมาลัยแบบเดิมๆ สามารถบังคับเลี้ยวได้ทั้ง 4 ล้อ ช่วยให้รถกระบะคันโตสามารถเลี้ยวตีโค้งได้ในระยะรัศมี 6.25 เมตร แคบพอๆ กับกระบะ 1 ตันในบ้านเรา อย่าง Toyota Hilux Revo แถมยังหมุนพวงมาลัยแค่ไม่เกินครึ่งรอบ เพราะระยะหมุนสุดจากซ้ายไปขวา (Lock-to-Lock) เพียงแค่ 0.94 รอบ เท่านั้น

 

 

ภายในห้องโดยสาร มีจุดเด่นอยู่ที่พื้นที่ที่กว้างขวางและสามารถนั่งโดยสารด้านหลังได้ 3 คนโดยไม่เบียดกันมากหนัก ตามสไตล์ Full-size Turck ในส่วนอื่นๆ ยังคงความเรียบง่ายสไตล์ Tesla ตกแต่งด้วยสีทูโทนดำสลับขาว สำหรับผู้โดยสารด้านหน้าและคนขับ ศูนย์กลางการควบคุมอุปกรณ์และระบบต่างๆ ยังคงอยู่ในหน้าจอสัมผัส Touchscreen ขนาด 18.5 นิ้ว ขณะที่ผู้โดยสารด้านหลัง ก็มีหน้าจอควบคุมเครื่องปรับอากาศ และลูกเล่นอื่นๆ ขนาด 9.4 นิ้ว ติดตั้งมาให้ด้วยเช่นกัน

 

 

ขุมพลังของ Tesla Cyberturck เวอร์ชั่นสหรัฐฯ มีให้เลือก 3 รูปแบบ ดังนี้

Rear-Wheel Drive

ขับเคลื่อนล้อหลัง RWD ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 315 แรงม้า (HP) พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion (NMC)

ตัวเลขสมรรถนะเคลมจากโรงงาน

  • อัตราเร่ง 0 – 100 km/h ภายใน 6.5 วินาที
  • ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ทำได้ 402 กิโลเมตร (มาตรฐาน EPA)
  • นำ้หนักลากจูงสูงสุด 7,500 ปอนด์ หรือประมาณ 3.4 ตัน

All-Wheel Drive

ขับเคลื่อนล้อ 4 ล้อ AWD ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กำลังสูงสุด 600 แรงม้า (HP) แรงบิดสุงสุด 10,080 นิวตันเมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion (NMC) ความจุ 123 KWh

ตัวเลขสมรรถนะเคลมจากโรงงาน

  • อัตราเร่ง 0 – 100 km/h ภายใน 4.1 วินาที
  • ความเร็วสูงสุด Top Speed ทำได้ 180 km/h
  • ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ทำได้ 547 กิโลเมตร (มาตรฐาน EPA)
  • นำ้หนักลากจูงสูงสุด 11,000 ปอนด์ หรือประมาณ 5 ตัน

Cyberbeast

ขับเคลื่อนล้อ 4 ล้อ AWD ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว กำลังสูงสุด 845 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 13,959 นิวตันเมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ Lithium-ion (NMC) ความจุ 123 KWh

ตัวเลขสมรรถนะเคลมจากโรงงาน

  • อัตราเร่ง 0 – 100 km/h ภายใน 2.6 วินาที
  • ความเร็วสูงสุด Top Speed ทำได้ 208 km/h
  • ระยะทางวิ่งสูงสุดต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง ทำได้ 515 กิโลเมตร (มาตรฐาน EPA)
  • นำ้หนักลากจูงสูงสุด 11,000 ปอนด์ หรือประมาณ 5 ตัน
   

 

การมาเยือนดินแดนแห่งกระบะของ Cybertruck ในครั้งนี้ ดูเหมือนว่าเป็นการสร้างความเคลื่อนไหวเล็กๆ น้อยๆ ของแบรนด์ Tesla ในประเทศไทยเท่านั้น เพราะการ Sneak Preview ในรอบนี้ ทาง Tesla ไม่ได้ระบุถึงแผนการทำตลาด หรือแม้กระทั่งการศึกษาความเป็นไปได้ในการนำ Tesla Cybertruck เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยแต่อย่างใด