เป็นเรื่องปกติที่บรรดาบริษัทรถจะทดสอบท่ามกลางสภาพอากาศร้อนจัดและเย็นจัด เช่น ค่ายรถพลังงานไฟฟ้าอย่าง Polestar ที่ใช้พื้นที่ทะเลทรายแถบรัฐแอริโซนาในสหรัฐอเมริกาและทางตอนเหนือของสวีเดน สำหรับแถบขั้วโลกเหนือที่ทางทีมวิศวกรของ Polestar นำรถเวอร์ชั่นก่อนผลิตขายจริงมาทดสอบเป็นประจำทุกปี ในช่วงเดือน ธันวาคม ถึง เดือนมีนาคม และขึ้นชื่อว่า Polestar ก็จะต้องคุ้นชินกับสภาพหนาวจัดเป็นธรรมดา เพราะถือเป็นบ้านเกิดของแบรนด์
คุณ Joakim Rydholm หัวหน้าทีมวิศวกร แผนกแชสซีและช่วงล่าง กล่าวว่า “การจูนช่วงล่างรถบนสภาพหิมะและน้ำแข็ง ช่วยให้ทีมวิศวกรสามารถจูนช่วงล่างได้แม่นยำยิ่งขึ้น ขณะที่ตัวรถออกอาการอย่างช้าๆ บนพื้นลื่น ซึ่งเมื่อเทียบกับทางถนนทั่วไปแล้ว
การปรับแต่งจะทำได้ละเอียดยิ่งขึ้น” การปรับแต่งตัวรถ Polestar 2 ‘Arctic Circle’ อยู่ภายใต้แนวคิด “winter rally” ซึ่งถือเป็นความท้าทายใหม่ของทีมวิศวกร โดยเริ่มจากการนำ Polestar 2 รุ่น Long range Dual motor with Performance Pack หรือรุ่นมอเตอร์คู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ มาจูนพละกำลังให้เพิ่มขึ้นเป็น 480 แรงม้า (PS) และแรงบิด 680 นิวตัน-เมตร ติดตั้งระบบ launch control system ที่ได้รับการติดตั้งเป็นครั้งแรก โดยสามารถควบคุมได้จากแป้น Paddle Shift ที่พวงมาลัย
ภายนอกติดตั้งไฟเสริมจาก Stedi รุ่น Quad Pro LED จำนวน 4 ดวง เพิ่มลุคความเป็นตัวลุยแรลลี่ และยังคาดด้วยลายที่ตัวถังเฉพาะสีเทาและขาวด้าน ปิดท้ายด้วยแผ่นกันกระแทกใต้เครื่องยนต์ที่ทำจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ ส่วนภายในไม่ได้มีการปรับแต่งมากมาย จะมีเพียงเบาะคู่หน้าจาก Recaro ทรงบัคเก็ตซีทสีดำชาร์โคล พร้อมปักโลโก้สีทองตามธีมการตกแต่งของ polestar
ทางด้านช่วงล่างนอกจากจะมีความสูงเพิ่มขึ้น 30 มม. ยังมีการลดความแข็งของสปริงลง 30% ด้วยชุดโช้คแบบ three-way performance จาก Öhlins ที่ได้รับการปรับแต่งมาโดยเฉพาะ ที่สามารถปรับความแข็ง-อ่อน ได้มากถึง 9 ระดับ พร้อมชุดซับแทงค์เพิ่มด้วย อีกทั้งยังมีการเสริมเหล็กค้ำตัวถังด้านล่างทั้งด้านหน้าและหลังเพื่อเพิ่มความทนแรงบิดเฉือน รวมทั้งปรับปรุงฟีลลิ่งของพวงมาลัย และที่เด่นสะดุดตา ก็คือ ล้ออัลลอยลายคลาสสิคสไตล์แรลลี่จาก OZ Racing ขนาด 19 นิ้ว มาพร้อมยางสำหรับลุยหิมะขนาด 245/35 R19 ซึ่งมีหมุดนึดเกาะขนาด 4 มม. ติดตั้งเป็นจำนวน 490 อัน ต่อ 1 เส้น
นอกจากนี้ทาง Polestar ยังเผยถึงแผนการขยายฐานการผลิตไปที่สหรัฐอเมริกา เพิ่มเติมจากปัจจุบันผลิตจากจีนเท่านั้น และจะขยายการทำตลาดไปยังประเทศต่างๆ จนรวมเป็น 30 ประเทศ ในปี 2023 นี้ โดยในช่วงปี 2022-2024 ทางค่ายจะทยอยเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ โดยปีนี้จะเปิดตัว Polestar 3 SUV คันแรกของค่าย ตามมาด้วย Polestar 4 ที่มาในรูปแบบ SUV ทรงท้ายลาดขนาดเล็กลงมาในปี 2023 และไฮไลท์สำคัญในปี 2024 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นผลิตจริงของรถต้นแบบ 4 ประตูทรง GT อย่าง Polestar Precept ที่จะมาในชื่อ Polestar 5
Polestar ยืนยันว่า Polestar 2 Arctic Circle เป็นรุ่นต้นแบบที่ไม่มีแผนในการผลิตเพื่อจำหน่ายแต่อย่างใด
ที่มา: Polestar
Credit: www.HeadLightMag.com